เทคนิคการสร้างภาพกราฟิก
การสร้างภาพกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์มีเทคนิคอยู่สองวิธี
คือ กราฟิกแผนที่บิต (bitmapped
graphics) หรือกราฟิกแรสเตอร์ (raster graphics)
หรือกราฟิกจุดภาพ (pixel graphics) และกราฟิกเส้นสมมติ
(vector graphics) หรือกราฟิกเชิงวัตถุ (object
– oriented graphics) ภาพกราฟิกที่สร้างด้วยวิธีการทั้งสองแบบมีความเหมาะสมต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน
จึงควรมีความเข้าใจถึงลักษณะและข้อดีข้อเสียของวิธีการทั้งสองแบบ
เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องดังนี้
3.2.1 กราฟิกแผนที่บิตหรือภาพแบบบิตแมป (bitmapped
graphics)
โปรแกรมสำหรับสร้างภาพโดยใช้เทคนิคกราฟิกแผนที่บิต ซึ่งทั่วไปเรียกว่า โปรแกรมระบายสี (paint program) จะสร้างและเก็บภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบของจุดบนจอภาพ (screen pixels) ซึ่งเรียงต่อกัน โดยแต่ละจุดภาพ (pixels) จะแยกกันยู่ในตำแหน่งหน่วยความจำอย่างอิสระ มีลักษณะประจำของจุดแต่ละจุด เช่น สี ความเข้มแสง จึงทำให้สามารถปรับแต่งสีได้อย่างสวยงาม แต่เนื่องจากการเรียงต่อของจุดภาพอยู่ในลักษณะตาราง ภาพที่ได้จึงมีรอยหยักที่เกิดจากรูปสี่เหลี่ยมของจุดแต่ละจุด จะเห็นได้ชัดเมื่อรูปนั้นประกอบด้วยเส้นโค้งหรือเส้นทแยง และจะชัดเจนขึ้นเมื่อปรับขยายภาพขึ้นดังรูปที่ 3.4 แต่ถ้ากำหนดให้ความหนาแน่นของจุดภาพที่ประกอบกันเป็นภาพหรือความละเอียดของภาพมีจำนวนจุดมากเท่าใดก็จะได้ภาพคมชัดมากเท่านั้น และในขณะเดียวกันก็จะใช้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้นด้วย จอภาพของคอมพิวเตอร์สามารถกำหนดให้มีความละเอียดที่ประกอบด้วยจุดภาพจำนวน 640 x 480 จุด ถึง 1024 x 768 จุด และกำหนดให้แต่ละจุดมีจำนวนสีได้ตั้งแต่ 16 สี ถึง 16.7 ล้านสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจอภาพแลแผงวงจนแสดงผล
โปรแกรมสำหรับสร้างภาพโดยใช้เทคนิคกราฟิกแผนที่บิต ซึ่งทั่วไปเรียกว่า โปรแกรมระบายสี (paint program) จะสร้างและเก็บภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบของจุดบนจอภาพ (screen pixels) ซึ่งเรียงต่อกัน โดยแต่ละจุดภาพ (pixels) จะแยกกันยู่ในตำแหน่งหน่วยความจำอย่างอิสระ มีลักษณะประจำของจุดแต่ละจุด เช่น สี ความเข้มแสง จึงทำให้สามารถปรับแต่งสีได้อย่างสวยงาม แต่เนื่องจากการเรียงต่อของจุดภาพอยู่ในลักษณะตาราง ภาพที่ได้จึงมีรอยหยักที่เกิดจากรูปสี่เหลี่ยมของจุดแต่ละจุด จะเห็นได้ชัดเมื่อรูปนั้นประกอบด้วยเส้นโค้งหรือเส้นทแยง และจะชัดเจนขึ้นเมื่อปรับขยายภาพขึ้นดังรูปที่ 3.4 แต่ถ้ากำหนดให้ความหนาแน่นของจุดภาพที่ประกอบกันเป็นภาพหรือความละเอียดของภาพมีจำนวนจุดมากเท่าใดก็จะได้ภาพคมชัดมากเท่านั้น และในขณะเดียวกันก็จะใช้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้นด้วย จอภาพของคอมพิวเตอร์สามารถกำหนดให้มีความละเอียดที่ประกอบด้วยจุดภาพจำนวน 640 x 480 จุด ถึง 1024 x 768 จุด และกำหนดให้แต่ละจุดมีจำนวนสีได้ตั้งแต่ 16 สี ถึง 16.7 ล้านสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจอภาพแลแผงวงจนแสดงผล
รูปที่ 3.4
ตัวอย่างภาพแผนที่บิตเมื่อขยาย 700 เท่า
ภาพที่สร้างด้วยวิธีนี้ พบได้ทั่วไปจากภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัล
ภาพจากเครื่องกราดตรวจ วีดิโอเกม
ภาพยนตร์ กระดานอิเล็กทรอนิกส์
ภาพการ์ตูน งานโฆษณาทั่วไป
ตัวอย่างไฟล์ : .BMP, .PCS, .TIF, .GIF, .JPG, .PCD
ตัวอย่างโปรแกรมกราฟิกประเภทบิตแมป เช่น Adobe Photoshop , Fractal Design Painter , Paint Shop Pro , L-View เป็นต้น
ตัวอย่างโปรแกรมกราฟิกประเภทบิตแมป เช่น Adobe Photoshop , Fractal Design Painter , Paint Shop Pro , L-View เป็นต้น
ข้อดีของกราฟิกแผนที่บิต
• สามารถเก็บรายละเอียดของภาพให้มีสีสันต่าง ๆ ได้ดีกว่า เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการระบายสี สร้างสี หรือกำหนดสีที่ต้องการความละเอียด สวยงามได้ง่าย
• สามารถตกแต่งภาพและเพิ่มรายละเอียดพิเศษที่น่าสนใจ เช่น ปรับความเข้มแสง ปรับแต่งสี แรเงา
ข้อเสียของกราฟิกแผนที่บิต
• สิ้นเปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บแฟ้มภาพ
• การประมวลผลภาพบางอย่างมีข้อจำกัด เช่น การหมุนภาพ การปรับขนาดหรือสัดส่วนภาพถ้านำภาพมาขยาย ความสวยงามจะลดลง แต่ถ้าเพิ่มความละเอียด จะทำให้ภาพมีขนาดใหญ่
• สามารถเก็บรายละเอียดของภาพให้มีสีสันต่าง ๆ ได้ดีกว่า เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการระบายสี สร้างสี หรือกำหนดสีที่ต้องการความละเอียด สวยงามได้ง่าย
• สามารถตกแต่งภาพและเพิ่มรายละเอียดพิเศษที่น่าสนใจ เช่น ปรับความเข้มแสง ปรับแต่งสี แรเงา
ข้อเสียของกราฟิกแผนที่บิต
• สิ้นเปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บแฟ้มภาพ
• การประมวลผลภาพบางอย่างมีข้อจำกัด เช่น การหมุนภาพ การปรับขนาดหรือสัดส่วนภาพถ้านำภาพมาขยาย ความสวยงามจะลดลง แต่ถ้าเพิ่มความละเอียด จะทำให้ภาพมีขนาดใหญ่
3.2.2 กราฟิกเส้นสมมติหรือภาพแบบเวกเตอร์(vector
graphics)
โปรแกรมสำหรับสร้างภาพที่ใช้เทคนิคกราฟิกเส้นสมมติโดยทั่วไปเรียกว่า โปรแกรมวาดภาพ (draw program) จะสร้างและเก็บข้อมูลภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบสูตรทางคณิตศาสตร์ที่บอกตำแหน่งของเส้นหรือจุดและความสัมพันธ์ว่า จุดใดหรือเส้นใดเชื่อมโยงกันบ้าง จึงสามารถปรับขนาดของภาพไดง่าย และไม่ทำให้เสียรูปทรง ภาพที่ใช้เทคนิคนี้จึงประกอบด้วยวัตถุที่เห็นได้ชัดเจน เช่น เส้น วงกลม วงรี และรูปเหลี่ยมต่าง ๆ วัตถุแต่ละชิ้นที่ประกอบเป็นภาพจะเป็นเอกเทศสามารถแก้ไขได้อย่างอิสระ ตัวอย่างกราฟิกเส้นสมมติที่พบได้ทั่วไปคือ ชุดแบบอักษร (font) ซึ่งพบว่า เมื่อปรับขนาดของตัวอักษรจะไม่ทำให้สัดส่วนของภาพเสียไป ดังรูปที่ 3.5
โปรแกรมสำหรับสร้างภาพที่ใช้เทคนิคกราฟิกเส้นสมมติโดยทั่วไปเรียกว่า โปรแกรมวาดภาพ (draw program) จะสร้างและเก็บข้อมูลภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบสูตรทางคณิตศาสตร์ที่บอกตำแหน่งของเส้นหรือจุดและความสัมพันธ์ว่า จุดใดหรือเส้นใดเชื่อมโยงกันบ้าง จึงสามารถปรับขนาดของภาพไดง่าย และไม่ทำให้เสียรูปทรง ภาพที่ใช้เทคนิคนี้จึงประกอบด้วยวัตถุที่เห็นได้ชัดเจน เช่น เส้น วงกลม วงรี และรูปเหลี่ยมต่าง ๆ วัตถุแต่ละชิ้นที่ประกอบเป็นภาพจะเป็นเอกเทศสามารถแก้ไขได้อย่างอิสระ ตัวอย่างกราฟิกเส้นสมมติที่พบได้ทั่วไปคือ ชุดแบบอักษร (font) ซึ่งพบว่า เมื่อปรับขนาดของตัวอักษรจะไม่ทำให้สัดส่วนของภาพเสียไป ดังรูปที่ 3.5
รูปที่ 3.5
การขยายขนาดของชุดแบบอักษร
ภาพที่สร้างโดยใช้เทคนิคนี้ พบได้ในงานออกแบบด้านสถาปัตยกรรม
วิศวกรรม การร่างโครงร่างต่าง ๆ
งานวิทยาศาสตร์ งานออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
และงานที่ต้องการภาพที่มีสัดส่วนแน่นอน
ตัวอย่างไฟล์ : .EPS, .WMF, .CDR, .AI, .CGM, .DRW, .PLT
ตัวอย่างโปรแกรมกราฟิกประเภทเวกเตอร์ เช่น Adobe Illustrator , Macromedia Freehand , Corel Draw เป็นต้น
ตัวอย่างโปรแกรมกราฟิกประเภทเวกเตอร์ เช่น Adobe Illustrator , Macromedia Freehand , Corel Draw เป็นต้น
ข้อดีของกาฟิกเส้นสมมติ
• การจัดเก็บสิ้นเปลืองเนื้อที่น้อยกว่ากราฟิกแผนที่บิตมาก
• การประมวลผลบางอย่างเช่น การย่อขยายเปลี่ยนแปลงขนาดได้โดยความละเอียดไม่ลดลง การหมุนจะทำได้ดีกว่า
ข้อเสียของกราฟิกเส้นสมมติ
• ไม่สามารถเก็บรายละเอียดของสีสันต่าง ๆ ได้ดี เนื่องจากเก็บในรูปแบบสูตรของเส้น
• การจัดเก็บสิ้นเปลืองเนื้อที่น้อยกว่ากราฟิกแผนที่บิตมาก
• การประมวลผลบางอย่างเช่น การย่อขยายเปลี่ยนแปลงขนาดได้โดยความละเอียดไม่ลดลง การหมุนจะทำได้ดีกว่า
ข้อเสียของกราฟิกเส้นสมมติ
• ไม่สามารถเก็บรายละเอียดของสีสันต่าง ๆ ได้ดี เนื่องจากเก็บในรูปแบบสูตรของเส้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น