โปรแกรมสำหรับงานกราฟิก


โปรแกรมสำหรับงานกราฟิก
 
      โปรแกรมสำหรับงานกราฟิกเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งในการใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ผลิตผลงานกราฟิก  ในปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับใช้ทำงานกราฟิกเป็นจำนวนมาก  สามารถจัดแบ่งโปรแกรมสำหรับงานกราฟิกออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ตามแผนภาพ  ดังนี้           

  

รูปที่ 3.1  การจัดประเภทของโปรแกรมกราฟิก

             1)  กราฟิกวาดภาพ (drawing graphics)
                โปรแกรมประเภทนี้ใช้สร้างสรรค์งานศิลปะหรือผลิตผลงานคุณภาพสูง  ภาพที่ซับซ้อนทางวิศวกรรม  ทางสถาปัตยกรรม และภาพกราฟิกอื่น ๆ แต่ละโปรแกรมจะมีลักษณะใช้เฉพาะงาน  ซึ่งแบ่งได้เป็น  2  กลุ่ม  คือ  โปรแกรมสร้างและตกแต่งภาพ  และโปรแกรมช่วยออกแบบ
          โปรแกรมสร้างและตกแต่งภาพ   ส่วนใหญ่มีลักษณะการใช้งานที่มีเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกในการสร้างหรือวาดภาพหรือตกแต่งภาพที่คล้ายกัน  เช่น  การแบ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วน ๆ  สำหรับเป็นพื้นที่วาดภาพซึ่งสามารถเลื่อนดูภาพในส่วนที่ไม่ได้ปรากฏบนจอ  รายการเลือก  กล่องเครื่องมือที่ประกอบด้วยสัญรูปเครื่องมือสำหรับใช้วาดรูป  เช่น  รูปทรงพื้นฐานสำหรับวาดรูปสี่เหลี่ยม  รูปวงกลม  ดินสอให้วาดรูปโดยอิสระ  แว่นขยายสำหรับใช้ย่อหรือขยายรูปออกมาตกแต่ง   ตัวอักษรสำหรับพิมพ์ข้อความลงในภาพซึ่งสามารถกำหนดรูปแบบอักษรหรือเทคนิคพิเศษต่าง ๆ  ผลลัพธ์ของโปรแกรมประเภทนี้จะเป็นแฟ้มภาพที่นำไปใช้งาน  ตัวอย่างเช่น  เพนต์บรัช  (Paint brush)  โฟโตชอพ (Photoshop)  คอเรลดรอว์ (Corel Draw)  เพนต์ (Paint)  เป็นต้น           




รูปที่ 3.2  โปรแกรมตกแต่งภาพเพนต์

          โปรแกรมช่วยออกแบบ   จะใช้ในงานกราฟิกทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม  เช่น  แบบแปลนตึก  แบบอุปกรณ์  แบบรถยนต์  แบบเครื่องบิน  สามารถใช้เขียนภาพ  โดยมีมาตราส่วนจริงได้  โปรแกรมช่วยออกแบบทั่วไปยังแบ่งได้เป็นแบบ  2  มิติ  ตัวอย่างเช่น  ออโตแคด (Auto CAD) และ แบบ  3  มิติ  เช่น   3DMAX ซึ่งมักจะใช้ในงานสถาปัตยกรรม หรืองานโฆษณา
              เทคนิคอย่างหนึ่งในโปรแกรมช่วยออกแบบ คือ  การสร้างภาพเคลื่อนไหว (animation)  ซึ่งเป็นภาพที่เกิดจากการพลิกดูภาพเดี่ยวหลาย ๆ ภาพที่เรียงซ้อนกันอย่างต่อเนื่อง  ทำให้มองเห็นรูปในภาพเคลื่อนไหว  โปรแกรมกราฟิกวาดภาพเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสร้างภาพเคลื่อนไหวบนฟิล์มภาพยนตร์ หรือภาพการ์ตูน  ในด้านธุรกิจการสร้างภาพเคลื่อนไหวจะมีค่าใช้จ่ายสูง  ซับซ้อน และยุ่งยาก  ในระยะแรก ๆ ของการผลิตภาพเคลื่อนไหว  ภาพเคลื่อนไหว 1 วินาที  จะต้องใช้ภาพวาดจำนวน  36 ภาพ   ปัจจุบันโทรทัศน์ในอเมริกาใช้ระบบเอ็นทีเอสซี (NTSC)  ใช้  30 ภาพ  ต่อวินาที  ออกอากาศโดยมีคอมพิวเตอร์ช่วยในการวาดภาพและกำหนดการเคลื่อนไหว  สำหรับประเทศไทยสัญญาณโทรทัศน์เป็นระบบพาว (PAL)  จึงใช้ 25 ภาพต่อวินาที  สำหรับภาพเคลื่อนไหวในคอมพิวเตอร์จะใช้ภาพไม่น้อยกว่า  19 ภาพต่อวินาที  ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดเก็บภาพเคลื่อนไหว
              คอมพิวเตอร์สำหรับสร้างภาพเคลื่อนไหวจะมีโปรแกรมกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูง  ช่วยให้ผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวสามารถกำหนดหรือสร้างลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวอักษรและตัวแสดงได้อย่างรวดเร็วและสะดวก  โปรแกรมคอมพิวเตอร์จะอาศัยหลักการเดียวกับการสร้างภาพเคลื่อนไหวบนฟิล์มภาพยนตร์  เพียงแต่จะเก็บภาพที่วาดในรูปข้อมูลดิจิทัลไว้ในสื่อพิเศษ  แล้วนำมาแสดงต่อเนื่องกันเป็นภาพเคลื่อนไหว

          2)  กราฟิกการนำเสนอ (presentation graphics)
โปรแกรมประเภทนี้ใช้นำเสนอข้อมูลหรือผลงานในรูปกราฟิก  ส่วนใหญ่โปรแกรมอนุญาตให้ใส่  ตัวอักษร  ภาพ  รูปกราฟต่าง ๆ  และมีการเก็บข้อมูลเป็นหน้า ๆ  เพื่อนำมาแสดงหรือนำเสนอได้ง่าย  ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ได้แก่  โลตัส ฟรีเลนซ์ (lotus freelance)  ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint)



รูปที่ 3.3  โปรแกรมนำเสนอ ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์

              โปรแกรมแสดงข้อมูลทางกราฟิกสามารถจัดอยู่ในกลุ่มโปรแกรมประเภทนี้ได้  เนื่องจากใช้ข้อมูลจากการเก็บรวบรวม  คำนวณ  หรือทดลองมาแสดงผลเป็นรูปกราฟ  2  มิติ  หรือ  กราฟ  3  มิติ  ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น
              นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมที่แสดงข้อมูลจากการคำนวณจำนวนมาก  เช่น  การสร้างแผนที่อากาศ  การทดสอบเครื่องบินในอุโมงค์ลม  การสร้างภาพนามธรรม



  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น